Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

การสอนลูกให้รู้จักทำงานบ้าน และดูแลตัวเอง สร้างนิสัยความรับผิดชอบตั้งแต่เด็ก

Posted By Plook TCAS | 24 ก.ค. 66
258 Views

  Favorite

         คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองเคยถามตัวเองไหมคะว่า เราเลี้ยงลูกแบบไหน เรากำลังเลี้ยงลูกให้เป็นเด็กเทวดา คือทำทุกอย่างเพื่อลูกมากไป หรือเลี้ยงลูกให้เป็นเด็กที่พึ่งพาตัวเองได้ ให้ลูกเรียนรู้ที่จะเชื่อการตัดสินใจของตนเอง คุณเคยคิดจะสอนลูกให้รู้จักทำงานบ้าน และดูแลตัวเอง เพื่อสร้างนิสัยความรับผิดชอบตั้งแต่เด็กไหม และทำอย่างไรที่จะให้ลูกน้อยไม่งอแงหงุงหงิง จุ๊กจิ๊กต่อรองเมื่อต้องทำงานบ้าน และให้ลูกมีแรงบันดาลใจพร้อมที่จะทำงานนั้นด้วยความสุขและความสนุก

         การทำงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ตามวัยและความสามารถของลูก จะช่วยให้ลูกได้เรียนรู้ทักษะการใช้ชีวิตประจำวัน คือสิ่งที่ลูกต้องทำเพื่อดูแลตัวเอง บ้าน และครอบครัว รู้จักคิดเพื่อให้มีพัฒนาการในการทำงาน ซึ่งเป็นทักษะชีวิตที่ลูกสามารถนำไปใช้ได้เมื่อเติบโตขึ้น ซึ่งจะทำให้ลูก “อยู่เป็น” และ “อยู่รอด” ได้ด้วยตัวเอง มาดูกันว่าเราจะใช้กลยุทธ์ของเราให้เนียน เพื่อทำให้ลูกรู้จักทำงานบ้าน และดูแลตัวเอง สร้างนิสัยความรับผิดชอบตั้งแต่เด็กได้อย่างไร

1. ชี้ชวนและสร้างแรงบันดาลใจให้ลูกในการทำงานบ้าน

         ในอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นและมีความสุข ลูกน้อยจะเปิดใจรับฟังเสียงของคุณพ่อคุณแม่ คุยให้ลูกฟังว่าตอนนี้ลูกยังเป็นเด็ก พ่อแม่ก็ช่วยดูแลลูก ทำงานบ้านให้ และอีกหน่อยเมื่อพ่อแม่แก่ ลูกก็จะทำงานบ้านให้พ่อแม่ ฉะนั้นลูกจึงเป็นบุคคลสำคัญที่จะเป็นผู้ช่วยของพ่อแม่ตั้งแต่ตอนนี้ เมื่อลูกโตขึ้นลูกก็จะเก่ง ดูแลพ่อแม่ดูแลบ้านได้ และเมื่อลูกช่วยงาน งานบ้านจะเสร็จเร็วขึ้น ครอบครัวจึงมีเวลาทำกิจกรรมสนุก ๆ ร่วมกันมากขึ้น เช่นเล่นบอร์ดเกมด้วยกันได้ก่อนนอน บริบทนี้เราอาจคุยเพิ่มเติมเรื่องความกตัญญูรู้คุณ การมีน้ำใจแบ่งปันช่วยเหลือกันในครอบครัวให้ลูกฟังก็ได้

         ธรรมชาติของเด็กคืออยากรู้อยากเห็น ชอบการมีส่วนร่วม สนุกเมื่อตัวเองมีบทบาทและความสำคัญ ซึ่งจะตามมาด้วยความรับผิดชอบในการกระทำ  เราบอกลูกถึงความสำคัญและลักษณะของงานบ้าน เช่น การหุงหาอาหารของคุณแม่ การจัดโต๊ะอาหาร การล้างถ้วยจาน การกรอกน้ำดื่มใส่ขวด การอาบน้ำทำความสะอาดให้น้องหมาน้องแมวแสนรัก หรือการรดน้ำต้นไม้ของคุณพ่อ การเก็บที่นอนหลังจากตื่นนอนแล้ว การเก็บของเล่นของตัวเองให้เป็นระเบียบ ฯลฯ และในงานเหล่านี้ ให้ลูกลองเลือกดูสิว่าลูกอยากทำสิ่งไหน  อยากช่วยคุณแม่ตอกไข่ตีไข่ หรือช่วยคุณพ่อรดน้ำต้นไม้และอาบน้ำให้น้อง ๆ แสนรัก หรืออะไรที่ลูกอยากทำ รับรองได้ลูกใจฟูและเกิดความสนุกอยากมีส่วนร่วมโดยไม่รู้สึกว่าถูกบังคับให้ทำ เพราะมีตัวเลือกให้ และเมื่อถึงเวลาต้องทำงานเหล่านั้น ลูกจะสนใจและเต็มใจทำเป็นประจำ และมีความรับผิดชอบได้เอง

2. บำรุงขวัญและกำลังใจในการทำงานบ้านของลูก

         เราต้องสังเกตพฤติกรรมและผลงานในการทำงานบ้านของลูก ดูความสนใจและความใส่ใจงานที่ทำ ถึงแม้ว่าเริ่มแรกงานยังออกมาไม่สมบูรณ์ แต่คำชมเชยของเราคือกำลังใจอันยิ่งใหญ่ของลูก มีสิ่งใดต้องปรับปรุงก็ค่อย ๆ บอกลูก และดูผลงานครั้งต่อ ๆ ไป โดยเปลี่ยนงานที่ทำไปเรื่อย ๆ ลูกจะได้ไม่เบื่อ เราควรอธิบายให้ลูกฟังว่างานบ้านหลายอย่างเป็นงานที่ต้องทำเป็นประจำทุกวันหรือบ่อยครั้ง เนื่องจากเป็นกิจวัตรประจำวัน เช่น ช่วยคุณแม่ทำอาหาร ช่วยคุณพ่อรดน้ำต้นไม้ จัดเก็บห้องนอนและของเล่น ฯลฯ และบางครั้งอาจมีงานพิเศษให้ลูกทำ เช่นช่วยคุณพ่อปลูกต้นไม้ รดน้ำพรวนดิน หว่านเมล็ดพันธุ์ลงในกระถางหรือแปลงดิน ซึ่งใช้พลังงานและพลังความคิดเพิ่มขึ้น และให้ลูกหมั่นดูแลต้นไม้เหล่านั้นด้วยตนเอง จนเจริญงอกงามลำต้นแข็งแรง หรือเมื่อลูกรู้จักการคัดแยกเสื้อผ้าก่อนซักได้อย่างเหมาะสม หรือพับผ้าได้เรียบร้อยสวยงาม ให้ถือเป็นผลงานพิเศษของลูก เราอาจให้รางวัลลูกเป็นหนังสือนิทานแสนสนุก เกมประเทืองปัญญา หรือเงินออมใส่กระปุก ลูกจะได้มีกำลังใจ หมั่นดูแลผลงานของตนเอง และพัฒนาฝีมืออย่างเต็มความสามารถโดยเราไม่ต้องจ้ำจี้จ้ำไช

3. งานบ้าน ไม่ใช่การลงโทษ

         เราต้องไม่ใช้การทำงานบ้านเป็นเสมือนการลงโทษ เช่น เมื่อลูกทำผิดเรื่องใดเรื่องหนึ่ง หรือเล่นไอแพ็ดไอโฟน เล่นเกมนานเกินเวลาที่กำหนด และทำโทษลูกด้วยการให้ไปหัดล้างจาน กวาดบ้าน ถูพื้น ลูกจะเสียขวัญและกำลังใจโดยง่าย เกิดความรู้สึกเชิงลบ และไม่อยากทำงานบ้านประเภทนั้นอีกต่อไป หรือทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร และอาจก่อให้เกิดความวิตกกังวลกับลูกได้  ในกรณีที่ลูกทำเสื้อผ้าสกปรก หรือไม่เก็บเสื้อผ้าที่ใช้แล้วไว้ในตะกร้าผ้าซัก ถอดทิ้งไปทั่ว เราควรสอนลูกให้รู้จักเรื่องของความสะอาด โทษของความสกปรกที่ก่อให้เกิดเชื้อโรคที่เป็นอันตรายต่อตัวลูก ทำให้ผิวลูกคันและเป็นแผล ซึ่งลูกน่าจะเข้าใจได้ดีกว่า และพร้อมทำตามคำแนะนำ

         แหล่งเรียนรู้ที่ดีที่สุดคือบ้าน เพราะบ้านมีงานบ้านให้ทำ การทำงานบ้านคือทักษะที่สำคัญในชีวิตที่หล่อหลอมให้ลูกของเราเติบโตเป็นคนดี มีคุณธรรม มีสำนึกแห่งความรับผิดชอบในการกระทำทั้งต่อตนเองและครอบครัว และเมื่อลูกเติบโตขึ้นจะเป็นผู้มีจิตสำนึกที่ดีต่อสังคมและประเทศชาติ ทั้งนี้เราต้องป้อนข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นต้นแบบที่ดีในการทำงานบ้าน ซึ่งเป็นงานที่ใกล้ตัวที่สุดและจำเป็นที่สุด เพื่อให้ลูกเห็นเป็นตัวอย่างและทำตาม ซึ่งจะทำให้ลูกรู้จักการดูแลและพึ่งพาตนเองได้ สร้างนิสัยความรับผิดชอบตั้งแต่เด็ก

 

ณัณท์

 

แหล่งอ้างอิง 
Household Chores for Children and Teenagers  
https://raisingchildren.net.au/preschoolers/family-life/routines-rituals-rules/chores-for-children   

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook TCAS
  • 29 Followers
  • Follow